การชน(Collision)
Collision คือ การชนกัน หรือการปะทะกัน เป็นกระบวนการที่วัตถุกระทบกันในช่วงเวลาที่สั้นมากจนเกินที่สายตาจะสังเกต
ลักษณะต่าง ๆ ขณะชนได้ ขณะชนจะเกิดแรงดลที่วัตถุแต่ละก้อนโดยขนาดของแรงเท่ากัน แต่มีทิศทางตรงกันข้าม
การชนในวิชาฟิสิกส์ มีสองประเภท คือการชนแบบวัตถุสัมผัสกัน เช่น
รถชนกัน และการชนแบบไม่สัมผัสกัน เช่น การชนของแม่เหล็กขั้วเหมือนกัน และการชนของประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกัน
การชน หมาย ถึง
การที่วัตถุหนึ่งกระทบกับอีกวัตถุหนึ่งในช่วงเวลาสั้นๆ หรือในบางครั้งวัตถุอาจไม่ต้องกระทบกันแต่มีแรงมากระทำต่อวัตถุแล้วให้ผล
เหมือนกับการชนก็ถือว่าเป็นการชนกันลักษณะหนึ่งใน การชนของวัตถุโดยมากมักมีแรงภายนอกมากระทำต่อวัตถุ
ซึ่งขนาดของแรงจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะของการชนกันของวัตถุ และในการชนอาจการสูญเสียค่าโมเมนตัมมากหรือน้อย
หรือไม่สูญเสียเลยก็ได้ เราอาจแยกการชนออกได้ 2 ลักษณะดังนี้
1.เมื่อโมเมนตัมของระบบมีค่าคงที่ เป็น การชนที่ขณะชนมีแรงภายนอกมากระทำน้อยมาก
เมื่อเทียบกับขนาดของแรงดล ที่เกิดกับวัตถุขณะชนกัน หรือแรงภายนอกเป็นศูนย์ เช่น
การชนของลูกบิลเลียด การชนกันของรถยนต์ การยิงปืน เป็นต้น
2.เมื่อโมเมนตัมของระบบไม่คงที่ เป็นการชนที่ขณะชนมีแรงภายนอกมากระทำมากกว่า
แรงดลที่เกิดกับวัตถุขณะชนกัน เช่น ลูกบอลตกกระทบพื้น รถยนต์ชนกับต้นไม้ เป็นต้น
ในหัวข้อต่อไปนี้
เป็นการชนของวัตถุเมื่อไม่มีแรงภายนอกมากระทำต่อระบบ ซึ่งสามารถแยกลักษณะการชนได้ 3 แบบ
1.การชนกันแบบยืดหยุ่น (Elastic
collision)
การชนกันแบบยืดหยุ่นเป็นการชนของวัตถุ แล้วรูปร่างของวัตถุไม่เปลี่ยนแปลง เช่น การชนกันของลูกบิลเลียด การชนกันของลูกบอล หรือวัตถุที่มีความยืดหยุ่นได้ชนกัน การชนกันแบบยืดหยุ่นแบ่งออกได้ 2 ลักษณะ คือ
ก.การชนแบบยืดหยุ่นสมบูรณ์ คือเป็นการชนที่ไม่มีการสูญเสียพลังงานจลน์ โดยพลังงานจลน์รวมก่อนการชนเท่ากับพลังงานจลน์รวมหลังชนโดยรูปร่างไม่เปลี่ยนแปลง
ข.การชนแบบยืดหยุ่นไม่สมบูรณ์ เป็น การชนที่มีการสูญเสียพลังงานจลน์ โดยเปลี่ยนไปเป็นพลังงานรูปอื่น ดังนั้นพลังงานจลน์รวมหลังชนจะน้อยกว่าพลังงานจลน์รวมก่อนชน โดยรูปร่างไม่เปลี่ยนแปลง
1.การชนแบบยืดหยุ่นสมบูรณ์ (Perfectly elastic
collision)การชนกันแบบยืดหยุ่นเป็นการชนของวัตถุ แล้วรูปร่างของวัตถุไม่เปลี่ยนแปลง เช่น การชนกันของลูกบิลเลียด การชนกันของลูกบอล หรือวัตถุที่มีความยืดหยุ่นได้ชนกัน การชนกันแบบยืดหยุ่นแบ่งออกได้ 2 ลักษณะ คือ
ก.การชนแบบยืดหยุ่นสมบูรณ์ คือเป็นการชนที่ไม่มีการสูญเสียพลังงานจลน์ โดยพลังงานจลน์รวมก่อนการชนเท่ากับพลังงานจลน์รวมหลังชนโดยรูปร่างไม่เปลี่ยนแปลง
ข.การชนแบบยืดหยุ่นไม่สมบูรณ์ เป็น การชนที่มีการสูญเสียพลังงานจลน์ โดยเปลี่ยนไปเป็นพลังงานรูปอื่น ดังนั้นพลังงานจลน์รวมหลังชนจะน้อยกว่าพลังงานจลน์รวมก่อนชน โดยรูปร่างไม่เปลี่ยนแปลง
ผลของการชนแบบยืดหยุ่นสมบูรณ์พบว่า
1.ผลรวมของโมเมนตัมก่อนชน =
ผลรวมของโมเมนตัมหลังชน
2.ผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนชน =
ผลรวมของพลังงานจลน์หลังชน
Eก่อนชน
= Eหลังชน
2.การชนแบบไม่ยืดหยุ่น (Inelaltic collision)
เป็นการชนของวัตถุแล้วรูปร่างมีการเปลี่ยนแปลง
หรือมีการเคลื่อนที่ติดกันไป การชนแบบนี้พลังงานจลน์ไม่คงที่ พลังงานจลน์หลังชนมีค่าน้อยกว่าพลังงานจลน์ก่อนชน
เพราะว่าพลังงานจลน์บางส่วนนำไปใช้ในการเปลี่ยนรูปร่างวัตถุทำให้ บุบ ยุบ และเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานเสียงแต่โมเมนตัมรวม
ก่อนการชนเท่ากับโมเมนตัมรวมหลังการชน
3.การดีดตัวของวัตถุ
หรือการระเบิด
คือ การที่วัตถุมีการแยกหรือแตกออกจากกัน โดยไม่มีแรงภายนอกมากระทำ ซึ่งมีเงื่อนไขเหมือนกับการชนใน 2 ลักษณะที่กล่าวมาแล้ว คือ
คือ การที่วัตถุมีการแยกหรือแตกออกจากกัน โดยไม่มีแรงภายนอกมากระทำ ซึ่งมีเงื่อนไขเหมือนกับการชนใน 2 ลักษณะที่กล่าวมาแล้ว คือ
Pก่อนระเบิด
= Pหลังระเบิด
ส่วน พลังงานจลน์ของวัตถุในการระเบิด
พบว่าผลรวมพลังงานจนล์หลังการระเบิด จะมีค่ามากกว่าผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนระเบิด เนื่องในการระเบิดมีการเปลี่ยนรูปพลังงานรูปต่างๆ
เป็นพลังงานจลน์ จึงได้ว่า
∑Ekก่อนระเบิด
= ∑Ekหลังระเบิด
ลักษณะของการระเบิดแยกออกได้ 2 ลักษณะคือ
1.การระเบิดแบบแยกออกจากกัน การระเบิดของวัตถุลักษณะนี้จะแยกออกจากกันเป็นส่วนๆ
เช่น
ก.การยิงปืน
ข.มวลอัดสปริง
ค.คนกระโดดจากเรือ
ง.คนกระโดดจากเรือกำลังเคลื่อนที่
2.การระเบิดแบบสัมพันธ์
โดยภายหลังการระเบิดวัตถุยังอยู่ด้วยกัน การคำนวณความเร็วของวัตถุแต่ละก้อน
ให้คิดเทียบกับพื้นโลก เช่น
ก.คนเดินบนเรือซึ่งอยู่นิ่ง
ข.คนเดินบนเรือซึ่งกำลังเคลื่อนที่
No comments:
Post a Comment